ทีมแมนซิตี้ ตามรายงานของสื่อ บ้านหลังต่อไปของมาห์เรซได้ปรากฏตัวแล้ว และมันคือเอซีมิลาน ซึ่งกำลังอยู่ในการแข่งขันชิงแชมป์กัลโช่เซเรียอา แน่นอนว่านอกจากเอซีมิลานแล้ว ทีมจากยุโรปบางทีมก็ให้ความสนใจมาห์เรซด้วยเช่นกัน ในเวลาเดียวกันสื่อ 123ballhd.com ก็รายงานด้วยว่าเอซีมิลานต้องการขอตัวมาห์เรซ ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่สื่อที่ไล่ตามเงาทั้งหมด
กองหน้าของเอซีมิลาน มีความจำเป็นเร่งด่วนในการเสริมความแข็งแกร่งให้กับรายชื่อตัวจริง ทีมแมนซิตี้ แม้ว่ากองหน้าในปัจจุบันจะทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นในเซเรียอา นอกจากนี้ ชิรูด์และอิบราฮิโมวิชทั้งคู่อายุรวมกัน 75 ปีแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่เอซีมิลานจะต้องเสริมทัพตัวจริง และการซื้อกองหน้าระดับโลก เอซีมิลานไม่ได้มีงบในการเซ็นสัญญามากนัก ดังนั้นจึงควรซื้อกองหน้าที่อายุมากกว่า แต่ได้รับการดูแลอย่างดีอย่างมาห์เรซ ข้อบ่งชี้ทั้งหมดคือว่านี่เป็นข้อตกลงแบบ win-win
ตอนนี้มันขึ้นอยู่กับว่าการย้ายตัวของเอซีมิลานจะเร็วหรือไม่ เพราะมาห์เรซไม่ได้โดนจับตามองอยู่ทีมเดียว เมื่อเอซีมิลานลังเล ทีมยุโรปที่แข็งแกร่งอื่นๆอาจเข้ามาสกัดกั้นล่วงหน้า ดังนั้นไม่ว่าเอซีมิลานจะสามารถเซ็นสัญญามาห์เรซได้หรือไม่
ก็ไม่น่าแปลกใจที่มาห์เรซจะเป็นคนแรกที่ออกจาก แมนเชสเตอร์ซิตี้ ในช่วงซัมเมอร์นี้ ฤดูกาลนี้มาห์เรซทำผลงานได้ดีมาก เขาลงเล่น 43 เกมและทำไป 23 ประตู 9 แอสซิสต์ให้ ทีมแมนซิตี้ เขาเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมแมนซิตี้ด้วย
บอลแมนซิตี้ ทีมแมนซิตี้ และเรอัลมาดริดเผชิญเกมแห่งชีวิตและความตาย
บอลแมนซิตี้ รอบรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกรอบ 2 ในฤดูกาลนี้ กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างเต็มกำลัง ความสงสัยระหว่างเรอัลมาดริดและแมนเชสเตอร์ซิตี้นั้น ใหญ่กว่าของลิเวอร์พูลและบียาร์เรอัล ดังนั้นจึงน่าเป็นห่วงมากกว่า ในเวลา 02.00 น. วันที่ 5 พฤษภาคม เรอัลมาดริดจะเล่นกับแมนเชสเตอร์ซิตี้ในบ้าน ในการแพ้ด้วยสกอร์ 3-4 ในรอบแรก เรอัลมาดริดต้องกลับไปที่สนามเบอร์นาเบวด้วยระยะขอบ 2 ประตู ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับพลาดรอบชิงชนะเลิศไป
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ทั้ง 2 ทีมพบกันในรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกหลังจากฤดูกาล 2015/16 ในเวลานั้นเรอัลมาดริดเสมอ 0-0 ในเกมเยือน และเอาชนะ 1-0 ที่บ้าน และชนะรอบชิงชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 1-0 ในที่สุดก็ได้แชมป์ไป
เรอัลมาดริดเล่นในบ้านกับ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี 4 สมัยโดยชนะ 3 แพ้ 1 ในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 2012/13 เรอัลมาดริดชนะในบ้าน 3-2 ในรอบรองชนะเลิศของฤดูกาล 2015/16 เรอัลมาดริดชนะในบ้าน 1-0 และในฤดูกาล 2019/20 เรอัลมาดริดชนะในบ้าน 1-0 และสุดท้ายในรอบชิงชนะเลิศ 8 ทีมสุดท้าย เรอัลมาดริดแพ้ 1-2 ที่บ้าน
ด้วยจำนวนการเผชิญหน้าที่เพิ่มขึ้น ทั้ง 2 ทีมจึงเป็นคู่ต่อสู้ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ในรอบแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรอัลมาดริดตามหลังทีมเยือน 3 สมัย 2 ประตู และสุดท้ายก็ทำสกอร์ได้ 3-4 และได้ไปต่อจนลุ้นรอบ 2 แน่นอนว่าเรอัลมาดริดยังตามหลัง และนอกจากนั้นก็ต้องชนะ 2 ประตู สรุปสกอร์ 2-0 ถ้าสกอร์ 1-0, 2-1, 3-3 จะเข้าช่วงต่อเวลาพิเศษ เพราะแชมเปียนส์ลีกยกเลิกกฎประตูทีมเยือนในรอบน็อคเอาท์แล้ว
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรอัลมาดริดเอาชนะเอสปันญอล 4-0 ที่บ้าน ครองตำแหน่งแชมป์ลาลีกาของฤดูกาลนี้ก่อนกำหนด และคว้าถ้วยรางวัลเป็นครั้งที่ 35 ในประวัติศาสตร์ทีม เมื่อเทียบกับ ทีมแมนซิตี้ ที่โดนลิเวอร์พูลกดดันทีละขั้นในพรีเมียร์ลีก เรอัลมาดริดสามารถโฟกัสไปที่แชมเปี้ยนส์ลีกได้แล้ว โค้ชอันเชล็อตติจะหมุนเวียนผู้เล่นหลักอย่างเบนเซม่าและวินิซิอุส เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแชมเปียนส์ลีกรอบรองชนะเลิศ
ตามสถิติหลังปฏิรูปแชมเปียนส์ลีก เรอัลมาดริดแพ้ 5 ครั้งในรอบรองชนะเลิศรอบแรก ซึ่งพวกเขาตกรอบกันหมด และขยายขอบเขตไปถึงรอบน็อกเอาท์ทั้งหมดตามลำดับ และเพื่อให้การคัมแบ็กสมบูรณ์ เรอัลมาดริดต้องการผู้กอบกู้ เรอัลมาดริดคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้งในปี 2018 นับแต่นั้นมาพวกเขาพลาดรอบชิงชนะเลิศติดต่อกัน 3 ปี คราวนี้พวกเขาต้องกำจัดทีมแมนซิตี้ เพื่อเข้าใกล้แชมป์สมัยที่ 14 ในประวัติศาสตร์ทีม
ตามข้อมูลการโอนของเยอรมัน ทีมเรอัลมาดริดมีมูลค่า 756 ล้านยูโร และทีม แมน ฯ ซิตี้ มีมูลค่า 959 ล้านยูโร และทั้ง 2 ทีมรวมกันเป็น 1.7 พันล้านยูโร ซึ่งจะเป็นเกมแห่งประวัติศาสตร์ของแชมเปี้ยนลีกอย่างแท้จริง